การออกแบบบ้านประหยัดพลังงานโดยปรับเปลี่ยนรูปแบบทางสถาปัตยกรรม
(CASE : การปรับปรุงประสิทธิภาพ "บ้านเอื้ออาทร" โครงการระยะที่ 2 เป็นบ้านประหยัดพลังงาน)
               การปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน         "โดยการปรับเปลี่ยนรูปแบบทางสถาปัตยกรรม (เช่น         การเปลี่ยนรูปแบบทางสถาปัตยกรรม รูปแบบโครงสร้าง วัสดุ         แบบผัง การจัดวางตัวอาคารและทิศทาง ฯลฯ)         โดยการปรับปรุงต่างๆจะต้องคำนึงถึงการประหยัดพลังงงาน          ความคุ้มค่า ความเหมาะสม         ความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติและประโยชน์         แก่ผู้อยู่อาศัยสูงสุด
           โดยศึกษาจากแบบสถาปัตยกรรม         แบบทางวิศวกรรม แบบผังโครงการ         แบบสาธารณูปโภคส่วนกลางต่างๆ ของบ้านอื้ออาทร         โดยประเภทของอาคารที่ศึกษาทั้งหมด         6 ประเภท คือ
 
                  
         บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
                  
         บ้านแฝด 2 ชั้น
                  
         บ้านแถว (ทาวน์เฮ้าส์) 2         ชั้น
                  
         อาคารชุด 5 ชั้น รูปแบบ        F
                 
         อาคารชุด 5 ชั้น รูปแบบ        F1
        
                   โดยแนวความคิดในการปรับปรุงอาคาร         เพื่อทำให้เกิดสภาวะน่าสบายและประหยัดพลังงานนั้นได้ทำการพิจารณา         ดังนี้
                 - โดยการป้องกันความร้อนเข้าสู่อาคาร
- โดยการพิจารณาระดับการส่องสว่างที่เหมาะสมในเบื้องต้น และนำเสนอมาตรการด้านอุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่างและดวงโคม
- โดยการพิจารณาผลจากการระบายอากาศ
- โดยการปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยของอาคาร และระบบวิศวกรรมต่างๆ ที่เหมาะสม
ซึ่งผลจากการศึกษาและออกแบบนั้นได้นำปัจจัยและมาตรการต่างๆ เข้ามาช่วยพิจารณาเพื่อให้โครงการบ้านเอื้ออาทรนั้น มีศักยภาพในด้านการอนุรักษ์พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมาตรการและข้อพิจารณาในด้านต่างๆ มีดังนี้ คือ
        
         มาตรการในการป้องกันความร้อนเข้าสู่อาคาร
                                   ภูมิอากาศของประเทศไทย         เป็นภูมิอากาศเขตร้อนชื้นแถบศูนย์สูตร         ดังนั้นในการป้องกันความร้อนเข้าสู่อาคาร         เพื่อทำให้เกิดสภาวะน่าสบายภายในอาคารตามทฤษฎีและงานวิจัยที่กล่าวมาแล้วในบทที่                2         จึงควรที่จะพิจารณาถึงปัจจัยที่มีผลต่อสภาวะน่าสบาย (Comfort)                แก่อาคาร ได้แก่
                            1)                     อุณหภูมิอากาศ (Air         Temperature)
                                   2)                     การแผ่รังสีความร้อน         (Radiation)
                                   3)                     ความชื้นสัมพัทธ์         (Humidity)
                                   4)                     การไหลเวียนของอากาศ         (Air         Movement)
                   
        
                       ปัจจัยดังกล่าวนี้เป็นปัจจัยหลักที่จะใช้ในการสร้างแนวทางในการป้องกันความร้อนเข้าสู่อาคาร         โดยจากการศึกษาการป้องกันความร้อนเข้าสู่อาคาร         จะพิจารณากรอบอาคาร 2 ส่วนด้วยกัน คือ หลังคา         และผนังอาคาร         โดยเมื่อพิจารณาถึงวัสดุที่จะนำมาใช้เป็นกรอบอาคารนี้                พบว่าคุณสมบัติวัสดุผสมที่มีความน่าจะเป็นตัวแทนวัสดุสำหรับเปลือกอาคารที่ดี         คือ วัสดุที่มีการใช้งานร่วมกันระหว่าง ฉนวนประเภทปิด         และมวลสาร         โดยผิวภายนอกของอาคารจะเป็นการป้องกันการแพร่ผ่านของความร้อนและความชื้นเข้าสู่ภายในอาคาร         ส่วนภายในของอาคารจะเป็นการสร้างเสถียรภาพทางอุณหภูมิให้กับอาคาร         และเมื่อพิจารณาปัจจัยดังกล่าวข้างต้นกับโครงการบ้านเอื้ออาทรแล้ว         จึงได้กำหนดแนวทางในการปรับปรุงกรอบอาคารไว้ ดังนี้
                     -         การปรับปรุงวัสดุในส่วนหลังคา
                     -         การปรับปรุงวัสดุผนังอาคาร        
                        การนำมาตรการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าและดวงโคม มาใช้กับโครงการบ้านเอื้ออาทรนั้น เป็นการช่วยให้ภาพรวมของอาคารและโครงการมีการบริโภคพลังงานไฟฟ้าที่เหมาะสม และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานโดยรวมของประเทศอีกด้วย โดยมาตรการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าและดวงโคมนั้น จากการศึกษาทฤษฎีและการออกแบบด้านแสงสว่างเพื่อสร้างความสบายทางสายตาและการมองเห็น พบว่าการเลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าและดวงโคมที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้โครงการนั้นสามารถที่จะประหยัดพลังงานในภาพรวมได้ โดยมาตรการที่จะนำมาใช้ในโครงการบ้านเอื้ออาทรอนุรักษ์พลังงานนี้ คือ การใช้บัลลาสต์กำลังสูญเสียต่ำ (Low Loss Ballast) และการใช้หลอดคอมแพค (Compact Fluorescent)
ระบบประปาและสุขาภิบาลสำหรับโครงการบ้านเอื้ออาทรอนุรักษ์พลังงานนั้น ไม่มีผลกระทบที่ชัดเจนต่อกระบวนการในการประหยัดพลังงาน แต่ทั้งนี้สามารถพิจารณาและสรุปเป็นข้อเสนอแนะในการดำเนินการก่อสร้าง เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ากับโครงการและเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ให้เกิดขึ้นกับผู้ที่อยู่อาศัยภายในโครงการ ดังนี้
1) การออกแบบระบบน้ำใช้สำหรับอาคารภายในโครงการ โดยเฉพาะอาคารบ้านพักอาศัย 2 ชั้น, บ้านแฝด 2 ชั้น และบ้านแถว (ทาวน์เฮ้าส์) 2 ชั้น ควรพิจารณาระบบการจ่ายน้ำประปาให้กับอาคารต่างๆ ภายในโครงการให้มีประสิทธิภาพ สามารถจ่ายน้ำให้ทั่วถึงทุกอาคาร และมีแรงดันของน้ำประปาที่เหมาะสม ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันใช้พลังงานไฟฟ้าที่มากขึ้นอันเนื่องมาจากการใช้ปั๊มน้ำที่อาจเกิดขึ้นได้กับโครงการ
2) การปรับเปลี่ยนแนวทางเดินท่อน้ำทิ้งจากห้องครัวมาผ่านบ่อดักไขมันก่อนนำน้ำทิ้งมาผ่านกระบวนการบำบัดน้ำเสีย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียก่อนทิ้งลงบ่อพักและระบบระบายน้ำสาธารณะ อีกทั้งเป็นการลดค่าใช้จ่ายในส่วนระบบบำบัดน้ำเสียรวมภายในโครงการ หากระบบบำบัดน้ำเสียภายในอาคารสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3) ปัญหาในการดำเนินการดูแลรักษาระบบบำบัดน้ำเสียรวมในระยะยาวผู้ออกแบบคาดการณ์ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง หากเป็นไปได้แล้วนั้น ควรใช้ระบบบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศในการบำบัดน้ำเสียในอาคารทุกประเภท และเน้นให้มีจุดเด่นคือ ผู้อยู่อาศัยสามารถดูแลรักษาระบบบำบัดน้ำเสียภายในครัวเรือนเองได้ เช่นการทำความสะอาดตัวกลาง, การนำปั๊มอากาศมาซ่อมแซมได้
ระบบบำบัดน้ำเสียแบบใช้อากาศ (Aerobic Treatment) กล่าวถึงการนำจุลชีพมาบำบัดน้ำเสียในครัวเรือน โดยเลือกชนิดของจุลชีพที่ใช้ออกซิเจนมาช่วยในกระบวนการทำงาน ซึ่งระบบดังกล่าวมีประสิทธิภาพสูงกว่าระบบบำบัดน้ำเสียแบบไม่ใช้อากาศ (Anaerobic Treatment) กล่าวคือ BOD (Biological Oxygen Demand) ที่ออกจากระบบบำบัดฯ แบบใช้อากาศจะมีค่าต่ำกว่า 20 mg/L ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานทำให้ไม่ต้องใช้ระบบบำบัดรวมอีกในการบำบัดน้ำเสียในโครงการ
4) หากมีการรวบรวมน้ำทิ้งจากกลุ่มอาคารที่อยู่อาศัย ก่อนการปล่อยลงสู่ลำน้ำสาธารณะควรมีการนำน้ำทิ้งนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น นำมารดน้ำต้นไม้รอบๆ โครงการ หรือ บริเวณสวนสาธารณะ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
5) การกำจัดขยะหรือของเสียในแต่ละครัวเรือน ควรมีการรณรงค์ให้แต่ละบ้านมีการคัดแยกขยะก่อนทิ้ง เช่น จัดระบบการเก็บรวบรวมในโครงการให้สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว เพื่อเพิ่มความสะดวกในการรวบรวมและทำลายขยะหรือของเสียเหล่านั้น และควรมีจุดจัดเก็บอย่างพอเพียง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น